สวัสดีเพื่อนๆ อีกหนึ่งครั้งคะ จากรีวิวครั้งที่ผ่านมามีคำถามที่เพื่อนๆตั้งข้อสงสัยมาตลอด กับรอยช้ำรอยแผลที่ต้นขา ก็คงจะพอทราบได้ว่านุ้ยเป็นคนที่ซีเรียสมากว่าตัวเองเป็นคนขาใหญ่มีปัญหาส่วนเกินที่ต้นขามากจริงๆจึงได้ไปทำอะไรมากมายเพื่อคาดหวังว่าขาจะเล็กลงเหมือนคนทั่วไป
และฝันที่เป็นจริงก็มาถึงแล้วคะ กับการดูดไขมันต้นขาที่คาดว่าจะช่วยให้ต้นขาเล็ก กระชับ ดังใจต้องการ ดังนั้นในรีวิวนี้นุ้ยก็จะมาแชร์ประสบการณ์ดูดไขมันต้นขาพร้อมวิธีการดูแลตัวเองหลังการทำในแบบฉบับของตัวเองให้เพื่อนๆได้ชมกันคะ เผื่อมีใครสนใจจะไว้เป็นข้อมูลก่อนการตัดสินใจก่อนจะดูดไขมันกันคะ
การหาข้อมูลและการสินใจเลือกวิธีการดูดไขมัน
เหตุจูงใจที่ทำให้เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูดไขมันเพราะเพื่อนรอบๆตัวคะ ทั้งที่รีวิวทำฟรีให้บางคลินิก และเสียเงินจ่ายเอง เห็นว่ามีข้อดีข้อเสียหลายอย่าง แต่ผลที่ได้ช่างเป็นไปตามสิ่งที่ใจอยากได้นัก นุ้ยเริ่มดูรีวิวมากขึ้น หาข้อมูลมากขึ้น และมีในใจประมาณ 2-3 คลินิกที่เรารู้สึกว่าน่าสนใจ ทั้งจากคำแนะนำของเพื่อนๆ ชื่อเสียงของคุณหมอ และราคาที่เราเอื้อมถึงได้ จนสุดท้ายมีพี่ที่เรารู้จักแนะนำ Amed Clinic (ที่เราแอบเล็งไว้เหมือนกัน) ว่าตอนนี้กำลังมีเครื่อง Ultra Tite HD รุ่นใหม่ล่าสุด เจ็บตัวน้อยกว่าและไม่ต้องพักฟื้น แถมแผลยังมีขนาดเล็กมาก
( นุ้ยทำงานเป็นพริตตี้นางแบบ จำเป็นต้องใส่ชุดสั้นโชว์ขาตลอดจึงไม่อยากให้มีรอยช้ำหรือแผลเป็นที่เห็นได้ชัดเจน และมีเวลาพักฟื้นน้อยมาก )
คุณหมอแนะนำให้ตรวจร่างกายเพื่อเตรียมความพร้อม ซึ่งการดูดไขมันสามารถนำไขมันส่วนเกินเคสของนุ้ยไขมันจะออกมาได้แต่ไม่เยอะแค่ข้างละ 500cc (รวมทั้ง2ข้างเป็น 1,000 cc.) เพราะเราไม่ได้อ้วน แต่ก็สามารดูดไขมันออกมาได้ และต้องบอกก่อนว่า ดูดไขมันเคสของนุ้ยไม่ได้ใช้ยาสลบคะ (แม้จะอ้อนวอนขอคุณหมอ เพราะกลัวตัวเองจะทนเจ็บไม่ไหว ยอมรับว่าใจเสาะ) คุณหมอให้เหตุผลว่า ใช้เวลาในการทำไม่นาน แค่ประมาณแค่ 1 ชั่วโมงเท่านั่น และจะได้กลับบ้านได้เลยไม่ต้องรอยาสลบหมดฤทธิ์และไม่ต้องกังวลถึงเอฟเฟคที่จะตามมา( ชอบที่คุณหมอพูดตรงๆ ไม่ได้โอ๋เราหรือตามใจจนเกินไป)
ขั้นตอนการดูดไขมัน
- เตรียมตัวด้วยการห้ามทานยา อาหารเสริมหรือวิตามินต่างๆก่อนวันดูดไขมัน
- วัดสัดส่วนขช่วงขากำหนดจุดเปิดปากแผล ร่างเส้นบริเวณที่ดูดไขมันด้วยปากกาเมจิ
- ทำความสะอาดบริเวณต้นขา
- ฉีดยาชาจุดที่เปิดปากแผล
- นำน้ำเกลือผสมยาชาเข้าไป
- เริ่มดูดไขมันบริเวณท้องขา –> ต้นขาด้านใน –> ต้นขาด้านข้างช่วงสะโพก
- เย็บแผล
- ทำความสะอาด
- รีดน้ำเกลือออกจากต้นขาและทำแผล
ตอนทำยังรู้สึกตัวทุกขั้นตอนและคุยกับคุณหมอและพยาบาลตลอดเลยคะ แซวจนแทบหมดแรง เจ็บสุดช่วงฉีดยาชาก่อนลงมีดเพื่อเปิดแผลและช่วงดูดไขมันต้นขาด้านข้าง(เจ็บเพราะคุณหมอบอกว่าต้นขาด้านนอกมีกล้ามเนื้อค่อนข้างเยอะเวลาแทงเข็มเพื่อดูดไขมันต้องกระแทกแรง และเหนียว (เจ็บ+เสียว) ส่วนต้นขาด้านในและด้านหลังชิวๆเลยคะ เจ็บนิดหน่อย คุยแซวคุณหมอซะเป็นส่วนใหญ่คะ แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้ไม่ค่อยกลัวคงเป็นเพราะคุณหมอด้วยคะ ใจเย็น มือเบามาก และให้กำลังใจตลอด บอกเสมอเลยคะว่าเพื่อความสวย อีกนิดนะใกล้เสร็จแล้ว (คิดในใจมตลอดว่าจะทนได้จนจบเคสรึป่าว ไม่อยากให้เสียเวลาปล่าวกับครั้งนี้เลยยย สาธุ…)
พอเสร็จจากการดูดไขมันเสร็จ พี่ๆพยาบาลที่จะมาดูแลและให้คำแนะนำในการดูแลตัวเองคะ ก่อนที่จะรับยาและกลับไปพักต่อที่บ้านคะ ตอนกลับเดินไปแต่จะตึงๆขานิดหน่อย บวกกับขาที่บวมเปล่ง ทำให้เดินได้ช้าๆ พี่พยาบาลยังแนะนำว่าช่วง 2-3 วันแรกจะต้องรัดขาให้แน่นเพื่อให้ขาเข้าที่และนำน้ำเกลือที่เหลืออยู่ออกมา (บางส่วนจะออกมาทางเหงื่อและปัสสาวะ ช่วงแรกจะกระหายน้ำมากๆ ) ทำความสะอาดบริเวณขา ทำแผลได้แต่แผลยังต้องห้ามโดนน้ำอยู่คะ
นำไขมันออกมาได้แค่ 800 cc. (ช่วงสะโพกด้านข้างเจ็บมากคะ ขอคุณพอหยุดก่อนเลยได้น้อยกว่าที่คุณหมอแจงไว้)
รายงานความคืบหน้า
วันที่ 1 ยังไม่รู้สึกปวดเท่าไหร่ แต่หิวน้ำและปวดปัสสาวะบ่อยมาก (เดินไปห้องน้ำไม่ถึง3เมตร เหมือนเดินซัก3กม.) ทำแผลบ่อยคะเพราะน้ำเกลือและเลือดยังออกมาเรื่อยๆ
วันที่ 2 ยาชาเริ่มหมดฤทธิ์ ปวดระบมอยู่ประมาณหนึ่ง ทานยาต่อเนื่องแต่บางครั้งที่ต้องพึ่งยาแก้ปวดพอนสแตนด์ค่ะถือว่าเอาอยู่
วันที่ 3 เลือดและน้ำเกลือที่เหลืออยู่หมดไปแล้วคะ เห็นได้ชัดเลยคะว่าที่ขามีไขมัยหายไป มีส่วนเว้ามากขึ้น แต่ยังบวมอยู่และร้อยช้ำยังมีอยู่ประมาณหนึ่งค่ะ วันนี้เริ่มอาบน้ำทำความสะอาด และทายาแก้ช้ำแล้วค่ะ อยากให้รอยช้ำหายเร็วๆ
วันที่ 5 นุ้ยใส่ถุงน่องรัดขาและเริ่มออกมาทำงานแล้วคะ ตึงๆนิดหน่อยแต่ทนไหวคะ ส่วนรอยช้ำก็เริ่มจางลง รอยที่เห็นชัดๆก็ใช้คอนซิลเล่อปิดพอเอาอยู่คะ
วันที่ 7 มาพบหมอที่คลินิกเพื่อติดตามผลและตัดไหมเย็บแผลออกคะ แต่ช่วงนี้น้ำหนักกลับขึ้นเยอะกว่าก่อนทำเพราะนุ้ยนอนเยอะ ทานเยอะจริงๆ (ยอมรับผิดเลยคะ) เพื่อให้ผลออกมาได้อย่างที่ใจต้องการต้องเริ่มกลับมาคุมอาหารและออกกำลังเบาๆที่บ้านเพิ่มเติมคะ
วันที่ 15 วันนี้วัดรอบต้นขาซักหน่อย
วันนี้ครบ 1 เดือนแล้วคะ ขนาดต้นขาลดลงเห็นได้ชัด วัดรอบต้นขาซ้ายเหลือ 18 ” จาก 20″) ขวา 18.5″ จาก 20.5″) แต่สิ่งที่ยากที่สุดคือ ต้องดูแลตัวเอง และบริเวณที่ดูดไขมันอย่างต่อเนื่อง นวดไล่พังผืด ยังคงใส่กางเกงรัดขาทุกวัน ตอนกลางวันที่ต้องออกไปทำงานจะใส่กางเกงรัดแบบเต็มตัวคล้ายๆถุงน่องหนาๆ ตอนนอนก็จะใส่แบบครึ่งตัวยาวถึงเข่าคะ และมีการออกกำลังที่บ้านง่ายๆเพื่อกระชับต้นขา เช่น สควอช 20ครั้ง/เชต วันละ 3เซต(บังคับตัวเองทำทุกวันเลยคะตอนล้างเครื่องสำอางและแปลงฟัน เพราะคิดตลอดว่าขาจะได้กระชับเร็วๆ) บางวันมีเวลาจะทำโยะคะตามยูทูปที่บ้าน หรือไม่ก็ออกไปต่อยมวยคะ
สุดท้ายนี้ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆทุกคนที่อยากดูแลรูปร่างให้สมส่วน หรืออยากลดความอ้วน (รู้เลยว่ายากจริงๆ) หากท่านใดที่จะตัดสินใจดูดไขมัน อยากให้หาข้อมูลให้ดีคะ เพราะแต่ละคนก็มีข้อจำกัด และความจำเป็นที่ต่างกันไป
ขอบคุณรีวิวจาก pantip.com
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทรปรึกษามาดามได้ที่ : 083 249 6646 | 080 249 3691
Line ID : @amedclinic | @amedhotline
หรือดูโปรโมชั่นเพิ่มเติ่มได้ที่นี่
บริการศัลยกรรมมีเฉพาะสาขาพระราม 9 เท่านั้น